สายเกินไปแล้วหรือยัง ? ( ที่จะซื้อ Bitcoin ในตอนนี้ )

สายเกินไปแล้วหรือยัง ? ( ที่จะซื้อ Bitcoin ในตอนนี้ )


ผมเชื่อว่าหลายคนเริ่มรู้จักบิทคอยกันแล้ว และก็ยังลังเลอยู่ว่าถ้าหากซื้อบิทคอยเก็บไว้จะขาดทุนหรือไม่ ถ้าหากซื้อตอนนี้มันจะสายเกินไปแล้วหรือปล่าว ต้องออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้มาชี้นำใดๆทั้งนั้น เพียงแต่อยากนำเสนอปัจจัยหลายๆด้านให้ดูกันว่า ทำไมราคาบิทคอยมันถึงได้ขึ้นหรือลงต่อวันมันเกิดจากปัญจัยอะไรบ้าง  ฟังดูง่ายขึ้นเยอะ แต่ทุกอย่างเป็นแค่การวิเคราะห์เท่านั้น อาจจะมีปัจจัยอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งไม่สามารถเดาอนาคตได้แน่นอน แต่อย่างไรก็ตามก็ทำให้เรารู้ว่าจริงๆแล้วโอกาสที่ราคาจะไปถึงตรงนั้นก็มีความเป็นไปได้


ปัจจัยพื้นฐานของบิทคอยที่คุณควรรู้

  1. อย่างแรกคือด้วยจำนวนของบิทคอยน์ที่มีอยู่จำกัดแค่ 21 ล้าน BTC เท่านั้น ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปจำนวนเหรียญ BTC ที่ได้จากการขุดน้อยลง หรือใช้เวลาในการขุดนานขึ้น แต่ความต้องการใช้บิทคอยน์มีมาก ส่วนนี้ก็มีผลกับราคาด้วยเช่นกันตามหลักเศรษฐศาสตร์ (เอาง่ายๆคือมันเพิ่มไม่ได้)
  2. ความเชื่อมั่นในราคาของบิทคอยน์ของนักลงทุน ที่เชื่อว่าราคาบิทคอยน์ขึ้นได้แบบไม่มีขีดจำกัด อาจขึ้นไปถึงบิทคอยน์ล่ะ 10,000 USD หรือมากกว่านั้นก็ได้
  3. การใช้บิทคอยน์ แทนระบบการชำระเงิน และการโอนเงินระหว่างบุคคล หรือแม้แต่โอนเงินระหว่างประเทศซึ่งคุณจะเสียค่าธรรมเนียมน้อยมาก และรวดเร็วทันใจ เดี๋ยวนี้สามารถซื้อบ้านหรือรถด้วยบิทคอยได้แล้ว หรือแม้กระทั่งจ่ายเงินเดือนพนักงานในบริษัทด้วยบิทคอย
  4. ความเชื่อมั่นของประชาชนคนทั่วไป ที่สนใจในสกุลเงินดิจิตัล และซื้อมันเพื่อเก็งกำไร ซึ่งดูได้จากปีที่ผ่านมา มีการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น มีตลาดรับซื้อขายในแต่ล่ะประเทศมากขึ้น รวมถึงพ่อค้า หรือร้านค้ามีการใช้บิทคอยน์ในการจ่ายค่าสินค้าและบริการมากขึ้น
  5. ความนิยมที่มีต่อบิทคอยน์ ซึ่งในปัจจุบันคนส่วนมากรู้จักบิทคอยน์กันกว้างขวางมากขึ้น ดังจะเห็นในหลายประเทศได้ประกาศให้บิทคอยน์เป็นหนึ่งในการลงทุน และบางประเทศก็ได้พยายามผลักดันให้การใช้บิทคอยน์นั้นสามารถใช้จ่ายได้ถูกกฎหมายซึ่งการลงทุน
  6. ราคาของบิทคอยน์ เป็นอิสระจากดัชนีชี้วัดทางเศรษฐศาสตร์ของแต่ล่ะประเทศ ดังจะเห็นว่าข่าวเกี่ยวกับสภาวะเงินเฟื้อของแต่ล่ะประเทศจะไม่มีผลต่อราคาบิทคอยน์เท่าไหร่
  7. อัตราการเกิดเหตุการ Halving เฉลี่ยทุกๆ 4 ปี คือการลดจำนวนรางวัลในการขุดลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้เกิด Supply ที่น้อยลง
  8. ความมีอิสระในการซื้อขาย เมื่อเป็นบิทคอยหากคุณอยากทำการซื้อขายกันไม่จำเป็นว่าคุณต้องไปซื้อขายกันที่ Market Exchange เท่านั้น อยากจะซื้อขายกับคนข้างบ้านก็ทำได้ไม่ยาก ซึ่งต่างจากหุ้นหรือ Forex ที่ต้องมี Broker เป็นตัวกลาง
  9. ปัจจัยที่ทำให้บิทคอยราคาตกหลักๆแบบ flash crash เลยคือ ตลาดแลกเปลี่ยนถูกแฮค ซึ่งทำให้บิทคอยเสียความน่าเชื่อถือได้ อย่างประวัติศาสตร์ที่เคยมีมาอย่าง Mt.Gox จากญี่ปุ่น หรือ Bitfinex ของจีนล่าสุดที่โดนแฮคส่งผลให้ราคาบิทร่วงหลายจุด และในที่สุดความเชื่อมั่นก็เริ่มกลับมาเรื่อยๆ
ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ส่งผลของราคาบิทคอยผมยกตัวอย่างคร่าวๆมาเท่านี้ก่อนก็แล้วกันครับ อันที่จริงแล้วการเคลื่อนไหวของราคาบิทคอยน์นั้น มันก็มีขึ้นมีลงเป็นปกติธรรมดา ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อและผู้ขายที่ต่างต้องการที่จะทำกำไรในแต่ล่ะการซื้อขายแต่ล่ะครั้ง มันก็เหมือนกับการใช้จิตวิทยามาสู้กัน ว่าอยากให้ราคาขึ้นหรือลง โดยแต่ล่ะฝ่ายก็หาตัวช่วยมาช่วยให้ราคาบิทคอยน์เป็นไปในทิศทางที่ตนต้องการ เอาเข้าจริงๆ แล้ว ปัจจัยที่ผลต่อราคาบิทคอยน์นั้นก็ยังมีอีกมากมาย และยังเปิดกว้างให้วิเคราะห์กัน ซึ่งนักลงทุนและผู้คนทั่วไปทุกคนต่างสนใจและมองหาปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อราคาบิทคอยน์เหล่านี้

อนาคตของบิทคอยที่มีผลต่อโลก

ในตอนนี้บิทคอยเริ่มมีบทบาทมากยิ่งขึ้น อย่างที่รู้ว่าทั้งโลกผูกค่าเงินกับดอลล่า หลายๆประเทศที่พยายามปลดแอกจากเมกาอยู่ก็พยายามหาวิธีพยายามทำให้ประเทศตนเองไม่โดนควัญหลงของระบบเศรษฐกิจของเมกา ถ้าหากในอนาคตอยู่ดีๆ มีบางประเทศที่เอาบิทคอยมาใช้เป็นสกุลหลักของประเทศตนเองเกิดขึ้นได้จริงๆ ผมเชื่อว่าวันนั้น คนที่เตรียมพร้อมย่อมได้เปรียบ
คุณอาจจะเป็นเหมือนกับ จ๊อด โซรอส ก็เป็นได้ แต่นั่นก็เป็นเรื่องของอนาคตเท่านั้น แต่ในตอนนี้ก็เริ่มเห็นการใช้บิทคอยเยอะมากๆในบางประเทศแล้ว แม้กระทั่งมีตู้ ATM บิทคอยกันเลยทีเดียว
อีกประการหนึ่งบิทคอยมีตลาด Exchange ส่วนใหญ่ ซึ่งมี Market Capital สูงเกิน 50% อยู่ที่จีน อย่างที่หลายคนรู้ว่าจีนทำสงครามเย็นกับเมกามาหลายปี พยายามผลักดันราคาทองมามานาน พักนี้จะเห็นราคาทองคำตกอย่างไม่มีนัยยะสำคัญอะไร ผลพวงมาจากยุโรปที่หลายๆคนทราบกันดี ไม่แน่ว่าจีนอาจจะมีไม้เด็ดอะไรอยุ่ก็เป็นได้

สายเกินไปแล้วหรือยัง ?

ถ้าหากคุณมองว่าบิทคอยเหมือนหุ้น VI ที่ในอนาคตตกที่คุณหรือทุกคนในโลกจะต้องใช้ผมมองว่ามันไม่มีคำว่าสายเกินไป บิทคอยถูกออกแบบมาเพื่อนำมาใช้ตั้งแต่วันนี้จนถึงต่อไป ถ้าคุณใช้บิทคอยอยู่ตอนนี้คุณจะรู้ว่าบิทคอยไม่มีคำว่าสายเกินไปอย่างแน่นอน ยังมีอีกหลายวิธีสำหรับการลงทุนด้วยบิทคอยให้ได้กำไร อย่างไรก็ดีทุกอย่างมี 2 ด้านควรศึกษาข้อมูลให้ดี จัดการหน้าตักให้เรียบร้อย
ที่มา https://medium.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น